
สำหรับเมื่อคืนที่ผ่านมาก็มีการแข่งขันฟุตบอล เอฟเอคัพ ของอังกฤษ โดยเป็นนัดชิงชนะเลิศ คู่ระหว่าง สิงห์บลู เชลซี พบ จิ้งจอกสยาม เลสเอตร์ ซิตี้ ซึ่งผลปรากฏว่า เลสเตอร์ ซิตี้ สามารถเอาชนะ เชลซี ได้ในเวลา 90 นาที และทำให้เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ได้ และเป็นครั้งแรกของสโมสรอีกด้วยกับถ้วยใบนี้ สำหรับความพิเศษเมื่อคืนที่ผ่านมาคือ เป็นการแข่งขันกันที่สนามเวมบรี้ สนามกีฬาประจำชาติของประเทศอังกฤษ ซึ่งนัดนี้มีผู้ชมเข้าไปชมเกมในสนามได้เป็นครั้งแรก หลังจากที่ห้ามมีผู้ชมในสนามมาหลายเดือน ซึ่งก็ปล่อยให้เข้าไปชมด้วยจำนวน 2 หมื่น คน โดยประมาณ ถือเป็นบรรยากาศที่ต้องปรับตัวพอสมควรสำหรับคนดูทางบ้าน แตจ่เป็นเรื่องดีใจที่ทุกอย่างกลับมาเป็นบรรยากาศที่ดีเหมือนเดิมอีกครั้ง เรียกได้ว่า บรรยากาศเดิมๆกำลังกลับมา กับความมันส์ของกีฬาฟุตบอล ที่มีแฟนบอลเป็นส่วนหนึ่งในนั้น สำหรับรายละเอียดของเกมเมื่อคืนจะเป็นอย่างไรนั้น มาติดตามกันได้เลยครับ
รายระเอียดของเกมในครึ่งแรก คู่ระหว่าง เชลซี พบ เลสเตอร์ ซิตี้
มากันที่รายละเอียดของเกมในครึ่งเวลาแรกกันก่อนเลยครับ เชลซี นัดนี้มาในชุดสีน้ำเงินและเป็นชุดแข่งใหม่ ส่วน เลสเตอร์ ซิตี้ที่ปรกติใส่สีนำเงินเช่นกัน ก็เปลี่ยนมาเป็นสี เลือดหมู นาทีที่ 22 เชลซีมีโอกาสได้ลุ้นก่อน เมื่อ ติอาโก้ ซิลวา กองหลังจอมเก๋าเปิดบอลให้กับ เมสัน เมาท์ ทำการพลิกหนี คักลาร์ โซยุนคู กองหลังของ เลสเตอร์ ก่อนยิงด้วยเท้าซ้ายข้างที่ไม่ถนัด บอลหลุดเสาออกไปอย่างฉิวเฉียด และ หลังจากที่แข่งกันไปได้เกือบครึ่งชั่วโมง เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ต้องมาเปลี่ยนตัวหลักอย่าง จอนนี อีแวนส์ ออกเพราะบาดเจ็บ และเป็น มาร์ค อัลไบรท์ตัน ที่ลงสนามมาแทน และจบครึ่งแรกทั้งคู่ทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ 0-0
รายระเอียดของเกมในครึ่งหลัง คู่ระหว่าง เชลซี พบ เลสเตอร์ ซิตี้
มากันที่เกมในครึ่งเวลาหลังกันต่อ หลังจากที่ ทั้ง เชลซี และ เลสเตอร์ ซิตี้ ต่างครองเกมกันไปแต่ไม่สามารถสร้างความน่ากลัวกันได้ เลสเตอร์ ซิตี้ ก้มาอาศัยจังวหะยิงไกลและเป็นประตูจนได้ ในนาทีที่ 63 จากผลงานของ ยูริ ติเลอมันส์ ซัดไกลบอลพุ่งเสียบ 3 เหลี่ยม เกปา อลิซาบาลากา ผู้รักษาประตูของทีม เชลซี หมดสิทธิ์เซฟ และเชลซีมีโอกาสตีเสมอจากจังหวะที่ เบน ชีเวล หลุดเข้าไปยิงแต่VARเช็คเป็นลูกล้ำหน้า และจบเกม เชลซี พ่าย เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1
