สำหรับเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็มีการแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นการเจอกันระหว่าง ทีมชาติยูเครน พบ ทีมชาติอังกฤษ โดยแข่งขันกันที่สนาม ที่สนาอัลลิอันซ์ อารีน่า ประเทศเยอรมัน ซึ่งผลปรากฏว่าทีมชาติอังกฤษ เอาชนะทีมชาติยูเครนไปแบบขาดลอยถึง 4-0 ทำให้อังกฤษได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ โดยจะไปพบกับทีมชาติเดนมาร์ก ที่สามารถอาชนะทีมชาติสาธารณรัฐเช็กไปได้ 2-1 สำหรับรายละเอียดของเกมการแข่งขันในนัดนี้จะเป็นอย่างไรนั้นก็มาติดตามกันได้เลยครับ
รายละเอียดของเกมในครึ่งเวลาแรก คู่ระหว่าง ทีมสุดท้าย คู่ระหว่าง ทีมชาติยูเครน พบ ทีมชาติอังกฤษ
มากันที่เกมในครึ่งแรกกันก่อนเลยครับ แค่เพียง 4 นาทีหลังสิ้นเสียงนกหวีด ทีมชาติอังกฤษก็ได้ประตูออกนำไปอย่างรวดเร็ว 1-0 โดยเป็นการประสานงานกันระหว่าง ราฮีม สเตอร์ลิง ที่เลี้ยงพาบอลไปทางฝั่งซ้ายก่อนที่จะจ่ายบอลทะลุผ่านแนวรับทีมชาติยูเครนไปให้กับ แฮร์รี่ เคน กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ได้หลุดเข้าไปยิงบอลผ่านมือ จอร์จี้ บุชชาน ผู้ระษาประตูยูเครนเข้าไป และหลังจากเสียประตูทีมชาติยูเครนก็พยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่ทีมชาติอังกฤษแต่ก็ยังทำได้เพียงแค่ได้ลุ้น โดยเป็นทางฝั่งอังกฤษที่เกือบจะได้ประตูขึ้นนำมากกว่าโดยในนาทีที่ นาทีที่ 33 ทีมชาตอังกฤษ บุกเข้าใส่ยูเครนและเป็น ดีแคลน ไรซ์ ที่อาศัยจังหวะยิงไกลบอลพุ่งเข้ากรอบ แต่ จอร์จี้ บุชชาน ที่ยังคงเซฟเอาไว้ได้ ก่อนที่เวลาที่เหลือในครึ่งแรกทั้งคู่จะทำประตูกันเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรก ทีมชาติอังกฤษออกนำ 1-0
รายละเอียดของเกมในครึ่งเวลาหลัง คู่ระหว่าง ทีมสุดท้าย คู่ระหว่าง ทีมชาติยูเครน พบ ทีมชาติอังกฤษ
มากันที่เกมในครึ่งหลังกันบ้าง แค่เพียง 1 นาทีหลังสิ้นเสียงนกหวีดเป่าเริ่มเกมทีมชาติอังกฤษที่ได้ประตูขึ้นนำเป็น 2-0 จากจังหวะแอสซิสต์ ของ ลุค ชอว์ ที่เปิดบอลให้กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ได้โหม่งเข้าไป และเพียงไม่กี่นาทีต่อมา ในนาทีที่ 50 อังกฤษก็ออกนำไปเป็น 3-0 จาก ลุค ชอว์ คนเดิมที่เปิดบอลให้ แฮร์รี่ เคน โหม่งอลเข้าไป เท่านั้นยังไม่พอในนาทีที่ 63 ทีมชาติอังกฤษก็นำทีมชาติยูเครนไปไกลเป็น 4-0 จากการผ่านบอลของ เมสันเมาท์ ไปให้กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้โหม่งบอลเต็มๆเข้าไป แม้ช่วงเวลาที่เหลือยูเครนจะพยายามเต็มที่เพื่อตีไข่แตก แต่ก็ไม่สามารถทำลายแนวรับทีมชาติอังกฤษได้ จบเกมทีมชาติอังกฤษเอาชนะ ทีมชาติยูเครนไป 4-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปพบกับทีมชาติเดนมาร์กต่อไป
#สรุปผลการแข่งขันฟุตบอลยูโร2020 #ทีมชาติยูเครน #ทีมชาติอังกฤษ