เรียกได้ว่าเสริมทัพไม่หยุดหย่อนกันเลยกับทีมปีศาจแดง แมนเชสเตรอ์ ยูไนเต็ด ทีมรองแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา หลังจากที่คว้าตัว จาดอน ซานโช่ มาจาก เสือเหลือง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัวกว่า 85 ล้าน ยูโร ล่าสุดพวกเขาก็คว้าตัวกองหลังชื่อดังทีมชาติฝรั่งเศษ มาจากสโมสรดังระดับโลก เรอัล มาดริด ราฟาเอล วาราน ด้วยค่าตัว 42 ล้านปอนด์ พร้อมออฟชั่นเสริม ซึ่งถือได้ว่าเป็นการได้ตัวมาที่ถูกมากๆ หากเทียบกับฝีเท้า ดีกรี และชื่อเสียงของเขา แต่ก็เป็นเพราะว่า ราฟาเอล วาราน เหลือสัญญากับ เรอัล มาดริด แค่เพียง 1 ปี ซึ่งทาง ราชันชุดขาวก็จำเป็นต้องขายออกแม้จะอยากรั้งไว้ เพราะนักเตะก็ต้องการออกไปหาประสบกากรณ์ใหม่ๆเองด้วย
ราฟาเอล วาราน ยืนหลังคู่ แมคไกวร์ ทำให้ปีศาจแดงจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม

ราฟาเอล วาราน โดยดาวเตะตำแหน่งกองหลังชื่อดัง วัย 28 ปี จะเข้าร่วมทัพปีศาจแดงโดยจะมายืนแผงหลังคู่กับแนวรับยูไนเต็ด คู่กับกัปตันทีม แฮร์รี แม็คไกวร์ ซึ่งจะทำให้แผงหลังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แข็งแกร่งขึ้นเป็นเท่าตัว โดยถือเป็นการอุดรอยรั่วที่ฤดูกาลที่ผ่านมาไม่มีใครสามารถช่วย แม็คไกวร์ ในการคุมเกมรับได้เลย และยิ่งการที่ ขนาบข้างด้วยนักเตะแผงหลังฝีเท้ายอดฝั่งซ้ายเป็น ลุค ชอว์ และขวาเป็น อารอน วานบิสซาก้า ก็เป็นเรื่องยากมากๆหากคู่แข่งต้องการจะเจาะทำประตู
สำหรับ ราฟาเอล วาราน ก็ถือเป็นนักเตะใหม่รายที่ 3 แล้ว ที่ปีศาจแดง ซื้อตัวเข้ามาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยก่อนหน้านี้พวกเขาได้ ทอม ฮีตัน ผู้รักษาประตูที่เพิ่งหมดสัญญากับ ทีมแอสตัน วิลลา มาร่วมทีม โดยจะมาเป็นผู้รักษาประตูสำรอง และ จาดอน ซานโช ปีกขวาสตาร์ดังจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แห่งบุนเดสลีกา เยอรมนี
การช็อบของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่สิ้นสุดที่ ราฟาเอล วาราน

การซื้อตัว ราฟาเอล วาราน ของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่ใช่นักเตะรายสุดท้ายที่ทีมดังจะซื้อมาร่วมทีม โดยการนำทัพของกุนซือ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ เขายังคงมีความต้องการที่เสริมทัพเพิ่มมาอีก โดยพวกเขายังมีข่าวที่เกี่ยวกับนักเตะคนอื่นๆอีกมากมายหลายคน เช่น ดีแคลน ไรซ์ นักเตะกองกลาง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และตัวหลักทีมชาติอังกฤษ ซาอูล นิเกซ กองกลางของสโมสร แอตเลติโก มาดริด แห่งศึกลาลีกา สเปน เอดูอาร์โด คามาวิงกา กองกลางจากสโมสรแรนส์ ทีมดังแห่งลีกเอิง ฝรั่งเศส และ คีแรน ทริปเปียร์ แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษ ของแอตเลติโก มาดริด ซึ่งก็ต้องจับตาดูกันว่าการเสริมทัพในครั้งนี้จะสำเร็จกี่เปอร์เซ็นต์