สำหรับค่ำคืนวันเสาร์ที่ 15 มกราคม 2022 ก็มีการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2021-2022 โดยจะแข่งขันกันในเวลา 19.30 น. เป็นคู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ โดยจ่าฝูง เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเปิดรังเอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของอันดับที่ 2 สิงห์บลูส์ เ ช ลซี ซึ่งถือได้ว่าเป็นเกมนัดสำคัญที่จะชี้ชะตาการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ได้เลย ถ้าหากว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถเอาชนะได้ ก็จะทำให้มีแต้มที้งห่าง เชลซี อันดับ 2 มากถึง 13 คะแนน แต่ถ้าหาก เชลซี สามารถบุกมาเอาชนะได้ ก็จะทำให้ช่องว่างระหว่างแต้มนั้นลดลงเหลือเพียงแค่ 7 คะแนนเท่านั้น สำหรับความพร้อมของทั้งสองทีมจะเป็นอย่างไรนั้นก็มาติดตามกันได้เลยครับ
ความพร้อมของทีม เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ สิงห์บลูส์ เ ช ลซี

มากันที่ความพร้อมของทางฝั่งเจ้าบ้าน เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กันก่อนเลย สำหรับผลงาน 5 เกมหลังสุดของพวกเขาในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็เก็บชัยชนะได้ 5 เกมรวด โดยเกมนัดล่าสุด ในการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก พวกเขาบุกไปเอาชนะ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ได้ด้วยสกอร์ 2 – 1 ส่วนเกมนัดล่าสุดพวกเขาลงเล่นในการแข่งขันฟุตบอล FA Cup รอบที่ 3 สามารถเอาชนะทีม สวินดอน ทาวน์ ไปได้ด้วยสกอร์ 4 – 1 โดยความพร้อมของนักเตะในเกมนี้กุนซือสมองเพชร เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องของตัวผู้เล่นแต่อย่างใด พวกเขามีผู้เล่นฝีเท้าเยี่ยมอยู่ในทีมมากมายที่พร้อมลงสนาม
ส่วนทางด้านความพร้อมของทางฝั่งทีมเยือน สิงห์บลูส์ เชลซี สำหรับผลงาน 5 เกมหลังสุดของพวกเขาในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็เก็บชัยชนะได้เพียงแค่นัดเดียว นอกนั้นเสมอ เรียกได้ว่าเป็นผลงานที่ย่ำแย่เลยทีเดียวในเวลานี้ของพวกเขา โดยเกม พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุด พวกเขาเปิดบ้านเสมอกับ หงส์แดง ลิเวอร์พูล 2-2 ส่วนในเกมล่าสุดในศึก FA Cup พวกเขาเปิดบ้านถล่มเอาชนะ เชสเตอร์ฟิลด์ ไปได้ด้วยสกอร์ 5 – 1 และในส่วนความพร้อมของนักเตะในเกมนี้ พวกเขาก็มีนักเตะที่ฟิตพร้อมสมบูรณ์ทุกตำแหน่ง หลังจากทยอยหายจากอาการบาดเจ็บกลับมาลงสนามจะได้อย่างครบครัน
สำหรับความน่าจะเป็นของเกมนี้ก็เป็นเกมก็คาดเดาได้ยากเลยทีเดียวเมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็มีความได้เปรียบในการเล่นเป็นเจ้าบ้านและฟอร์มที่ดีกว่า ส่วน เชลซี ก็ต้องการ 3 คะแนน เพื่อลดช่องว่างให้น้อยลง โดยความน่าจะเป็นของเกมนี้ก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พ่ายให้กับ เชลซี 0 – 1

#วิเคราะห์ฟุตบอลวันนี้ #วิเคราะห์บอลล่าสุด #วิเคราะห์บอลพรีเมียร์ลีก
ติดตามข่าวสารฟุตบอลกันต่อที่ Sport2KicK