ค่ำคืนวันพุธที่ 20 เมษายน 2022 ก็มีการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2021 – 22 ในเวลา 02.00 น. โดยเป็นการพบกันระหว่าง เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะเปิดสเตเดี้ยมรับการมาเยือนของ ทีมไบรท์ตัน โดยสถานการณ์ปัจจุบันของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาอยู่ในอันดับที่ 2 ของตารางคะแนนแข่ง 31 นัดมี 74 คะแนน ส่วน ไบรท์ตัน นั้นอยู่อันดับที่ 10 ของตารางคะแนน แข่ง 32 นัดมี 40 คะแนน ในส่วนของความพร้อมของทั้ง 2 ทีมจะเป็นอย่างไรนั้นก็มาติดตามกันได้เลยครับ
ความพร้อมของทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ทีมไบรท์ตัน

ก็มากันที่ความพร้อมของทางฝั่งเจ้าบ้าน เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กันก่อนเลยครับ สำหรับผลงานใน พรีเมียร์ลีก 5 เกมหลังสุด พวกเขาเก็บชัยชนะได้ 3 นัด และเสมอ 1 โดยที่เกมนัดล่าสุดของพวกเขานั้นก็เปิดบ้านเสมอกับ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ไปด้วยสกอร์ 2-2 ส่วนในการแข่งขัน เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ เกมล่าสุด ของพวกเขานั้นก็แพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล ไปด้วยสกอร์ 2 – 3 ส่วนสภาพความพร้อมของตัวผู้เล่นในเกมนัดนี้กุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็จะได้ผู้เล่นตัวหลักกลับมาลงสนามอย่างครบครันซึ่งก็จะนำโดย เควิน เดอ บรอยน์, แบร์นาโด้ ซิลวา, ริยาด มาห์เรซ, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ฟิล โฟเด้น และ คนอื่นๆ
มากันที่ความพร้อมของทางฝั่งทีมเยือน ไบรท์ตัน กันบ้าง สำหรับผลงาน 5 เกมหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก พวกเขาก็ชนะ 2 นัด เสมอ 1 และแพ้ 2 ด้วยผลงานนัดล่าสุดของพวกเขานั้น ก็โชว์ความสุดยอดด้วยการบุกไปเอาชนะ ไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ด้วยสกอร์ 1 – 0 ถือว่าเป็นผลงานที่น่าจับตามองเลยทีเดียว กับการที่พวกเขานั้นชอบในการที่จะบุกไปเอาชนะทีมในกลุ่มบนของตารางคะแนน โดยก่อนหน้านั้นก็เพิ่งบุกไปเอาชนะ อาร์เซนอล มาได้ 2-1 ซึ่งนัดนี้ตัวผู้เล่นกำลังสำคัญก็จะนำโดย อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, มอยเซส ไกเซโด้, เอน็อค เอ็มเวปู, ปาสกาล โกรส, เลอันโดร ทรอสซาร์, แดนนี่ เวลเบ็ค
และคนอื่นๆ
สำหรับความน่าจะเป็นของเกมในนัดนี้ล่าสุดนั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เพิ่งจะหมดลุ้นในถ้วยเอฟเอคัพไป ทำให้เหลือ พรีเมียร์ลีก กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พวกเค้ามีลุ้น จึงต้องเน้นอย่างหนัก และแน่นอนว่า เกมนั้นนี้การได้เปรียบของการเป็นเจ้าบ้านก็ไม่น่าพลาดที่จะเก็บ 3 แต้มสำคัญเพื่อกลับขึ้นไปอยู่ในอันดับจ่าฝูงต่อไป ด้วยสกอร์ที่คาด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ ไบรท์ตัน 3-1

#วิเคราะห์บอลพรีเมียร์ลีก #วิเคราะห์บอลล่าสุด
ติดตามข่าวสารฟุตบอลกันต่อที่ Sport2KicK