คืนวันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2022 ที่ผ่านมาและก็มีการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2021/22 โดยคู่ที่น่าสนใจก็เป็นเกมคู่ดึกสุดระหว่างยูงทอง ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่เปิดสนามเอลแลนด์ โร้ด รับการมาเยือนของทีมเรือใบสีฟ้า ทีมเเมนฯซิตี้ โดยผลปรากฏว่าจบเกม ลีดส์ ยูไนเต็ด แพ้คาบ้านแบบย่อยยับไปด้วยสกอร์ 0 – 4 ส่งผลให้อันดับในตารางคะแนนเวลานี้ของพวกเขานั้น หล่นมาอยู่ในอันดับที่ 17 ของตารางคะแนน โดยแข่งไปแล้ว 34 เกมมี 34 คะแนน มีความเสี่ยงที่จะตกชั้น ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงนำเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก ต่อไปแข่ง 34 เกมมี 83 คะแนน สำหรับรายละเอียดของเกมในคู่นี้จะเป็นอย่างไรนั้นก็มาติดตามกันได้เลยครับ
รายละเอียดของเกมคู่ระหว่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด พบ ทีมเเมนฯซิตี้

มากันที่ความพร้อมก่อนเกมกันเลยครับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในช่วงก่อนหน้านี้พวกเขาทำผลงานได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก หลังจากที่มีอันดับอยู่ในความเสี่ยงที่จะตกชั้นสูง ส่วนทางด้านของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมนี้ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีความกดดันต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก หลังจากที่ก่อนเริ่มเกมนั้น หงส์แดง ลิเวอร์พูล คู่ปรับที่จะลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ของพวกเขาก็เพิ่งเก็บ 3 แต้มสำคัญได้ทำให้เกมนี้พวกเขาจำเป็นที่จะต้องชนะอย่างเดียวเพื่อที่จะครองจ่าฝูงต่อไป
สำหรับเกมครึ่งแรกก็ต้องบอกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นเปิดเกมมาก็บุกหนัก และได้ประตูอย่างรวดเร็ว นาทีที่ 13 จากจังหวะที่ ฟิล โฟเด้น ปั่นบอลลูกฟรีคิก โค้งไปหน้ากรอบและเข้าทางของ โรดรี้ ได้โหม่งบอลเปลี่ยนทางเข้าประตูไป แมน ซิตี้ ออกนำไปก่อน 1 – 0 และ จบ 45 นาที แรกไปด้วยสกอร์นี้
ส่วนเกมในครึ่งหลังนั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็มาพร้อมเกมบุกที่หนักขึ้นเรื่อยๆ และนาทีที่ 55 พวกเขาก็ได้ประตูนำห่างไปเป็น 2 – 0 จากจังหวะลูกเตะมุมจากฝั่งขวาและ นาธาน อาเก้ ได้ยิงบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมานำห่างเป็น 2 – 0
เกมยังคงเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำได้ดีกว่า และนาทีที่ 78 พวกเขาก็ได้ประตูขึ้นนำไปเป็น 3-0 จากจังหวะหลุดเดี่ยวของ กาเบรียล เชซุส ได้ไปดวลกับผู้รักษาประตู ก่อนจะยิงบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
และยังไม่จบแค่นั้นในช่วงนาทีที่ 90 + 3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็มาได้ประตูที่ 4 จากการทำประตูของ แฟร์นันดินโญ่ และทำให้เมื่อจบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด ไปได้แบบขาดลอย 4 – 0

ติดตามข่าวสารฟุตบอลกันต่อที่ Sport2KicK