ผลงานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์ ล่าสุดของฤดูกาล 2021 / 22 นั้น ก็ต้องบอกว่าเละเป็นโจ๊กเลยทีเดียว เมื่อรูปเกมออกมาพวกเขาไม่สามารถที่จะต่อกรกับเจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เลยแม้แต่น้อย ถือได้ว่าเป็นผลงานอันย่ำแย่สุดๆ และส่งผลทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปแพ้ถึง 1-4 เป็นการแพ้แบบย่อยยับสุดๆ ซึ่งถือว่ามันเป็นเรื่องที่สร้างความเจ็บปวดให้แฟนบอลทผีแดง และยังรวมไปถึงบรรดาอดีตตำนานนักเตะของสโมสรด้วย ที่ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และวันนี้เราจะเอาคำวิจารณ์ของ รอยคีน อดีตกัปตันทีมระดับตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาให้ทุกท่านได้อ่านกัน
รอยคีน วิจารย์ผลงานย่ำแย่ ปีศาจแดง แบบไม่ไว้หน้าใคร

ด้วยสไตล์ของ รอย คีน เองที่เป็นสายเดือดพร้อมจะไฟท์กับทุกคนอยู่แล้ว ทำให้การวิจารณ์ของเขาเกี่ยวกับผลงานทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตสโมสรของเขานั้น ทำได้อย่างเจ็บแสบ และรุนแรงเลยที่เดียว กับคำวิจารณ์ที่เกิดขึ้นโดยรอยคีนนั้นได้พูดถึงผลงานอันย่ำแย่นี้ว่า
การลงสนามในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์ นั้นมันคือยิ่งกว่าการแข่งขัน แต่มันเป็นศักดิ์ศรี ไม่ว่าการที่ทั้งสองสโมสรจะมีอันดับในตารางคะแนนอย่างไร แต่การเจอกันนั้นมันก็ต้องลุยกันแบบเต็มที่ไม่มียั้ง แต่ผลงานที่ออกมานั้น นักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุคนี้ กลับทำออกมาโดยที่ไม่มีความมีศักดิ์ศรีเลยแม้แต่น้อย
เขาเองแทบไม่เชื่อเลยว่าการเล่นของรุ่นน้องของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะออกมาย่ำแย่ถึงเพียงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นที่แทบไม่มีใจที่จะวิ่งไล่บอล การจ่ายบอลที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน การที่ไม่สามารถป้องกันการบุกของคู่แข่ง และที่สำคัญในเกมครึ่งหลังนั้น ผู้เล่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นแทบจะไม่เอาอะไรเลย และ รอย คีน ยังกล่าวว่านักเตะในทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เวลานี้ หลายคนเลยที่ไม่เหมาะที่จะสวมใส่เสื้อทีมลงสนาม
ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นก็ต้องบอกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยงัคงต้องเจอกับความล้มเหลวเช่นเดิม แม้ว่าพวกเขานั้นจะได้ทำการแต่งตั้ง ราล์ฟ รังนิก ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันมากประสบการณ์เข้ามาคุมทีมแล้วก็ตาม แทนที่ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ อดีตผู้จัดการทีมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ก็ต้องบอกว่าผลงานโดยรวมนั้น ยังออกมาเป็นเช่นเดิมไม่ต่างจากอดีตกุนซือชาวนอร์เวย์คุมทีมอยู่เลยแม้แต่น้อย จึงเป็นเรื่องที่พวกเขาต้องคบคิดกันได้แล้วว่าสาเหตุหลักๆมาจากเรื่องอะไรกันแน่

ติดตามข่าวสารฟุตบอลกันต่อที่ Sport2KicK