สำหรับค่ำคืน วันเสาร์ ที่ 14 พฤษภาคม 2022 เวลา 22.45 น. ก็มีการแข่งขันฟุตบอล เอฟเอคัพ อังกฤษ นัดชิงชนะเลิศฤดูกาล 2021/22 โดยจะแข่งขันกันที่สนามเวมบลีย์ สนามกลางของประเทศอังกฤษ โดยจะเป็นการพบกันระหว่าง สิงห์บลูส์ เชลซี กับ หงส์แดง ลิเวอร์พูล 2 ทีมยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ สำหรับรายละเอียดความพร้อมของทั้ง 2 ทีมจะเป็นอย่างไรนั้นก็มาติดตามกันได้เลยครับ
เอฟเอคัพ ความพร้อมของทีม เชลซี และ ลิเวอร์พูล

ก็มากันที่ความพร้อมของทางฝั่ง เชลซี กันก่อนเลยครับ สำหรับผลงานที่ผ่านมาพวกเขานั้นก็เอาชนะ เชสเตอร์ฟิลด์ ได้ในรอบ 4 ลูตัน ทาวน์ ในรอบที่ 5 มิดเดิลส์เบรอ ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย และเอาชนะ คริสตัล พาเลซ มาในรอบรองชนะเลิศ ในส่วนของผลงาน 5 นัดหลังสุดของพวกเขาใน เกมลีก ก็เก็บชัยชนะใต้ 2 นัดเสมอ 2 และแพ้ 1 โดยเกมนัดล่าสุดก็บุกไปถล่มเอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้ถึงถิ่น 3-0 สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนัดนี้ก็มีข่าวออกมาว่า โทมัส ทูเคิ่ล อาจจะให้ มันเตโอ โควาซิส กองกลางตัวเก่งชาวโครเอเชียลงสนามแม้อาการบาดเจ็บจะมีอยู่ก็ตาม เช่นกันกับ เอ็นโกโล ก็องเต้ สำหรับกำลังหลักที่คาดว่าจะลงสนามในเกมนัดนี้นั้นก็นำโดย เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, มาร์กอส อลอนโซ่, จอร์จินโญ่, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, รีซ เจมส์, เมสัน เมาท์, ติโม แวร์เนอร์, โรเมลู ลูกากู และคนอื่นๆ
มากันที่ความพร้อมของทางฝั่ง ลิเวอร์พูล กันบ้าง สำหรับผลงานในรอบที่ผ่านๆมาใน ศึก เอฟเอ คัพ พวกเขาก็เอาชนะ ชูเบอรี่ทาวน์ มาได้ในรอบ 3 คาร์ดิฟฟ์ ในรอบ 4 นอริช ซิตี้ ในรอบ 5 ฟอเรสท์ ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในรอบรองชนะเลิศ สำหรับผลงาน 5 นัดหลังสุดในลีก ก็เก็บชัยชนะได้ 4 นัด และเสมอ 1 โดยที่เกมนัดล่าสุด ก็สามารถบุกไปเอาชนะ แอสตัน วิลล่า ได้ 2-1 ลิเวอร์พูล นั้นจะมีปัญหาในเรื่องของผู้เล่นกำลังหลักที่เพิ่งบาดเจ็บไปเมื่อเกมนัดล่าสุดอย่าง ฟาบินโญ่ กองกลางตัวรับคนสำคัญ ซึ่งถือว่าเป็นความเสียหายมากๆ ของพวกเขา ส่วนกำลังหลักที่จะลงสนามในเกมนัดนี้นั้นก็นำโดย เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เกอิต้า, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ซาดิโอ มาเน่, หลุยส์ ดิอาซ และคนอื่นๆ
สำหรับความน่าจะเป็นนั้น ก็ถือได้ว่าเป็นเกมที่คาดการณ์ได้ยากมากๆ โดยโอกาสที่ทั้งคู่จะเสมอกันในเวลามี สูงจนอาจจะมีถึงขั้นการดวลลูกจุดโทษเลยทีเดียว สำหรับสกอร์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นคือ เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 1 – 1

ติดตามข่าวสารฟุตบอลกันต่อที่ Sport2KicK