ค่ำคืนวัน พฤหัสบดี ที่ 19 พฤษภาคม 2022 เวลา 02.00 น. ก็มีการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2021/22 โดยเป็นการพบกันระหว่าง สิงห์บลู เชลซี ที่จะเล่นในรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ บ้านของตัวเองรับการมาเยือนของทีม ทีมเลสเตอ ร์ โดยปัจจุบัน เชลซี อยู่อันดับที่ 3 ของตาราง คะแนน แข่ง 36 นัดมี 70 คะแนน ส่วนทางฝั่งของ เลสเตอร์ พวกเขาอยู่อันดับที่ 9 แข่ง 36 นัดมี 48 คะแนน ในส่วนของรายละเอียดความพร้อมของทั้ง 2 ทีมจะเป็นอย่างไรนั้นก็มาติดตามกันได้เลยครับ
รายละเอียดความพร้อมของทีม เชลซี กับ ทีมเลสเตอ ร์

มากันที่ความพร้อมของทางฝั่งเจ้าบ้าน เชลซี กันก่อนเลยครับ นัดนี้ก็ถือได้ว่าจะมีความสำคัญก็คือการทำอันดับให้อยู่ในการจบที่ 3 ของตารางคะแนน โดยเป็นเกมนัดรองสุดท้ายของพวกเขาซึ่งถ้าหากว่า เชลซี เสมอหรือเก็บชัยชนะได้ ก็จะทำให้พวกเขานั้นอยู่อันดับที่ 3 ของตารางคะแนนไปจนจบฤดูกาลทันที สำหรับผลงาน 5 นัดหลังสุดของพวกเขาก็ไม่สู้ดีนักเก็บชัยชนะได้ 2 นัดเสมอ 2 แพ้ 1 โดยเกมนัดล่าสุดใน พรีเมียร์ลีก พวกเขาก็บุกไปถล่มเอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้ 3-0 ในส่วนผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในเกมนี้ ก็นำโดย อันโตนิโอ รูดิเกอร์, มาล็อง ซาร์, รีซ เจมส์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, มาร์กอส อลอนโซ่, ฮาคิม ซิเย็ค, เมสัน เมาท์, โรเมลู ลูกากู และ คนอื่นๆ
มากันที่ความพร้อมของทางฝั่ง สุนัขจิ้งจอก เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมเยือนกันบ้าง สำหรับผลงาน 5 นัดหลังสุดของพวกเขาก็ไม่สู้ดีนัก เก็บชัยชนะได้ 2 นัดและแพ้ 3 โดยเฉพาะเกมล่าสุดก็เป็นการเก็บชัยชนะได้ติดต่อกัน โดยที่พวกเขานั้นบุกไปเอาชนะ วัตฟอร์ด มาได้ด้วยสกอร์ 5-1 ในเกมนัดล่าสุดของ ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และส่วนความพร้อมของตัวผู้เล่นพวกเขานั้นจะยังไม่มี ไรอัน เบอทรานด์ และ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนผู้เล่นกำลังหลักที่คาดว่าจะลงสนามนั้นก็นำโดย นัมปาลิส เม็นดี้, เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์, มาร์ค อัลไบรจ์ตัน, เจมส์ แม็ดดิสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์, เจมี่ วาร์ดี้ และ คนอื่นๆ
สำหรับความน่าจะเป็นของเกมนัดนี้ เชลซี นั้นมีความได้เปรียบในการเล่นในบ้านของตัวเอง และพวกเขานั้นไม่มีความกดดันใดๆแล้ว หลังจากที่ได้โควต้าไปเล่นในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นที่เรียบร้อย ส่วน เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ไม่มีเป้าหมายใดๆเช่นเดียวกัน พวกเขานั้นไม่มีลุ้นในถ้วยใบไหน หรือจะต้องทำอันดับ สกอร์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นก็คือ เชลซี เสมอ เลสเตอร์ 2-2

ติดตามข่าวสารฟุตบอลกันต่อที่ Sport2KicK