ข่าวกีฬา สำหรับคืนวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2022 เวลา 23.00 น. ก็มีการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนยุโรป ซึ่งเป็นการแข่งขันกันในรอบเพลย์ออฟนัดชิงชนะเลิศ เป็นการเจอกันระหว่าง ทีมชาติ เวล ส์ ที่ได้เล่นในสนาม คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ทีมชาติยูเครน สำหรับรายละเอียดความพร้อมของทั้งคู่จะเป็นอย่างไรนั้นก็มาติดตามกันได้เลยครับ
รายละเอียดความพร้อมของ เวล ส์ กับ ยูเครน

มากันที่ความพร้อมของ ทีมชาติเวลส์ กันก่อนเลยครับ พวกเขานั้นก็มีโอกาสสูงมากในการได้ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เนื่องจากว่าเกมนี้พวกเขาได้เป็นเจ้าบ้าน โดยเงื่อนไขเดียวที่จะทำให้พวกเขาได้ผ่านเข้าไปเล่นในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์ ก็คือต้องเก็บชัยชนะให้ได้เท่านั้น แต่ผลงานในช่วงหลังของพวกเขานั้นก็ดูจะมีปัญหาอยู่พอสมควร โดยลงเล่นไปทั้งสิ้น 5 นัดพวกเขาเก็บชัยชนะได้เพียงแค่ 2 นัดเป็นการเสมอ 2 นัดและแพ้ 1 นัด ซึ่งเป็นเกมล่าสุดที่พวกเขานั้นบุกไปแพ้ให้กับ ทีมชาติโปแลนด์ ด้วยสกอร์ 1 – 2 แต่พวกเขานั้นก็โชคดีตรงที่ผู้เล่นกำลังหลักของทีมนั้น ไม่มีปัญหาในเรื่องของอาการบาดเจ็บหรือติดโทษแบน สำหรับผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามในเกมก็นำโดย อารอน แรมซี่ย์, โจ อัลเลน, เนโก วิลเลี่ยมส์, แฮร์รี่ วิลสัน, แกเร็ธ เบล, แดเนี่ยล เจมส์ และ คนอื่นๆ
มากันที่ความพร้อมของ ทีมชาติยูเครน กันบ้าง สำหรับผลงาน 5 นัดหลังสุดของพวกเขานั้นก็เรียกได้ว่ามีฟอร์มที่สุดยอดมากเลยทีเดียว โดยเก็บชัยชนะได้ 4 นัด และเสมอ 1 ยังไม่แพ้ใคร โดยผลงานนัดล่าสุดพวกเขาก็บุกไปเอาชนะ ทีมชาติสกอตแลนด์ ได้ถึงถิ่น 3 – 1 ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกรอบเพลย์ออฟ นัดรองชนะเลิศ ในส่วนของผู้เล่นกำลังหลักของพวกเขานั้นก็ไม่มีปัญหาในเรื่องของอาการบาดเจ็บรบกวนหรือติดโทษแบนแต่อย่างใด สำหรับผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามในเกมนั้นก็นำโดย วิตาลี่ มีโคเลนโก้, ทาราส สเตปาเนนโก้, อังเดร ยาร์โมเลนโก้, รุสลัน มาลินอฟสกี้, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, วิคเตอร์ ซีกานคอฟ, โรมัน ยาเร็มชุค และ คนอื่นๆ
สำหรับความน่าจะเป็นของเกมนัดนี้ ก็ถือได้ว่า ทีมชาติเวลส์ นั้นมีความได้เปรียบในเรื่องของการได้เป็นเจ้าบ้าน แต่ถ้าหากจะพูดถึงฟอร์มการเล่นแล้วก็ต้องยกให้กับ ทีมชาติยูเครน ที่เหนือกว่าอยู่พอสมควร สำหรับสกอร์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ทีมชาติเวลส์ เสมอ ทีมชาติยูเครน ในเวลา 90 นาที 1-1

ติดตาม รวมข่าวกีฬา ข่าวสารฟุตบอล ฟุตบอลต่างประเทศ กันต่อที่ Sport2KicK