ข่าวกีฬา คืนวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2000 22 ที่ผ่านมาก็มีการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก รอบเพลย์ออฟ โซนยุโรป เป็นการเจอกันระหว่าง ทีมชาติ เวลส์ ที่เล่นในสนาม คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดี้ยม เมือง คาร์ดิฟ รับการมาเยือนของ ทีมชาติยูเครน ซึ่งผลปรากฏว่า ทีมชาติเวลส์ เฉือนเอาชนะ ทีมชาติยูเครน ได้ด้วยสกอร์ 1 – 0 ทำให้ ทีมชาติเวลส์ ได้ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2022 ช่วงปลายปีที่ประเทศกาตาร์ได้เป็นทีมสุดท้าย ซึ่งถือได้ว่าการผ่านเข้าไปเล่นในการแข่งขันฟุตบอลโลกของ ทีมชาติเวลส์ นั้นนับเป็นครั้งที่สองของพวกเขาหลังจากที่ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ ปี 1958 สำหรับรายละเอียดของเกมส์ในคู่นี้จะเป็นอย่างไรนั้นก็มาติดตามกันได้เลยครับ
รายละเอียดของเกมคู่ระหว่าง ทีมชาติ เวลส์ พบ ทีมชาติยูเครน

ก่อนเริ่มเกมนั้นก็ต้องบอกว่า ทีมชาติเวลส์ มีความได้เปรียบในการได้เล่นเป็นเจ้าบ้าน โดยที่ผลงานก่อนหน้านี้ของพวกเขาเป็นการลงเล่นในรายการ เนชั่นส์ ลีก ซึ่งก็แพ้ให้กับ ทีมชาติโปแลนด์ มา 1-2 ส่วนทางฝั่งของ ทีมชาติยูเครน พวกเขานั้นก็ผ่านเข้ามาสู่รอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันรอบ เพลย์ออฟ ฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเอาชนะทีม ชาติสกอตแลนด์ มาได้
โดยเกมนัดนี้ ทีมชาติเวลส์ นั้นก็จัดทัพผู้เล่นกำลังหลักลงสนามอย่างครบครันเกมนี้ก็นำโดยผู้เล่น แกเร็ธ เบล, แดเนียล เจมส์, อารอน แรมซี่
ส่วนทางฝั่งของทีมชาติยูเครนนั้นพวกเขาก็มาพร้อมพูดเล่นกำลังหลักที่ฟิตสมบูรณ์พร้อมเต็มที่เช่นเดียวกันนำโดย โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – อังเดร ยาร์โมเลนโก้, โรมัน ยาเร็มชุค
สำหรับรูปเกมใน ครึ่งแรกนั้นก็เป็นทางฝั่งทีมชาติยูเครนทีมเยือนที่ทำผลงานได้ดีกว่าพวกเขานั้นมีโอกาสบุกทำประตูหลายครั้งใส่ทีมชาติวิวแต่สุดท้ายแล้วก็เป็น ทีมชาติเวลส์ ที่มาได้ประตูออกนำไปก่อนในนาทีที่ 34 จากลูกฟรีคิก และ แกเร็ธ เบล กัปตันทีมก็รับหน้าที่ และปั่นบอลโค้งด้วยซ้ายเข้าไปหน้ากรอบเขตโทษและด้วยการสกัดผิดพลาดของ อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ทำให้บอลเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไป ทำให้ทีมชาติเวลส์ออกนำทีมชาติยูเครนไปก่อน 1 – 0 และก็เป็นประตูเดียวที่เกิดขึ้นในเกมครึ่งแรก
สำหรับเกมในครึ่งหลังนั้น ทีมชาติยูเครน พยายามที่จะทวงประตูคืนหวังตีเสมอให้ได้ พวกเขามีโอกาสลุ้นหลายต่อหลายครั้ง จนไปถึงช่วงท้ายเกม แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถที่จะเจาะประตูของ ทีมชาติเวลส์ ได้ส่งผลทำให้เมื่อจบเกม 90 นาที ทีมชาติเวลส์ เอาชนะ ทีมชาติยูเครน ไปได้ 1-0

ติดตาม รวมข่าวกีฬา ข่าวสารฟุตบอล ฟุตบอลต่างประเทศ กันต่อที่ Sport2KicK