ฟุตบอลต่างประเทศ สำหรับเมื่อคืนวันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2022 ก็มีการแข่งขัน ฟุตบอลอุ่นเครื่อง ศึก แดงเดือด นัดกระชับมิตรที่ประเทศไทย โดยแข่งขันกันที่สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน โดยเป็นการเจอกันระหว่าง ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่ของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พบกับทีม หงส์แดง ลิเวอร์พูล ได้ว่าเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดฤดูกาล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2022-23 ที่กำลังจะมาถึงในเดือนหน้านี้ โดยทั้งสองทีมนั้นก็เป็นการนำเอานักเตะทั้งตัวหลัก และตัวสำรองมาทดสอบฝีเท้า สำหรับการเตรียมทีมในเกมนัดนี้ ก็ถือได้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นฝั่งที่ทำผลงานได้ดีกว่า โดยพวกเขานั้นสามารถสรุปเอาชนะ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ไปได้ด้วยสกอร์ขาดลอย 4 – 0 สำหรับรายละเอียดของเกมในคู่นี้จะเป็นอย่างไรนั้นก็มาติดตามกันได้เลย
รายละเอียดของเกม ฟุตบอลอุ่นเครื่อง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล

สำหรับเกมนี้ก่อนเกมมา ก็เรียกได้ว่า ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยการนำของผู้จัดการทีมคนใหม่ เอริค เทน ฮาก ก็มาพร้อมการส่งตัวผู้เล่นตัวหลักลงสนามอย่างครบครัน ส่วนทีม ลิเวอร์พูล นักเตะที่ได้ลงส่วนใหญ๋ กุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ นั้นก็เน้นไปที่การจัดทัพตัวสำรองลงเป็นหลัก โดยมี โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กองหน้าชาวบราซิลเป็นตัวยืน ในเกมรุก
สำหรับเกมนี้ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำเกมรุกได้อย่างยอดเยี่ยมโดยพวกเขานั้นได้ประตูขึ้นนำทีมหงส์แดงลิเวอร์พูลไปก่อนในนาทีที่ 13 จากจังหวะการสกัดบอลไม่ขาดของ อิซัค มาบาย่า และบอลนั้นหลุดไปเข้าทางของ จาดอน ซานโช่ ที่ได้ยินบอลเสียบเสาเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
เป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีโอกาสบุกทำประตูได้มากกว่าจนนาทีที่ 30 พวกเขาก็มาได้ประตูออกนำเป็น 2 – 0 จากการยิงแบบเหนือชั้นขอ เฟร็ด ที่ชิพบอลข้ามหัว อลิซอน เบเกอร์ ผู้รักษาประตู หงส์แดง ลิเวอร์พูล เข้าไปอย่างสวยงาม
ไม่กี่นาทีถัดมานาทีที่ 33 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นก็มาได้ประตูนำห่างออกไปเป็น 3-0 โดยการทำประตูของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
สำหรับเกมในครึ่งหลังนั้นก็ยังคงเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เหนือกว่า โดยพวกเขานั้นมาได้ประตูที่ 4 นำห่างออกไปเป็น 4 – 0 ในนาทีที่ 76 จากการยิงของ ฟาคุนโด้ เปยิสตรี้ ดาวรุ่งของทีม ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ก็จบเกม 90 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้ด้วยสกอร์ 4-0

ติดตาม รวมข่าวกีฬา ข่าวสารฟุตบอล ฟุตบอลต่างประเทศ กันต่อที่ Sport2KicK
#ลิเวอร์พูล #เเมนฯยู