ทำไม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล ถึงไม่ถูกกัน

ทำไม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล ถึงไม่ถูกกัน
ขอบคุณรูปภาพจาก smmsport.com

เป็นคำถามที่ยังคงมีคนสงสัยกันอยู่มากมายกับสาเหตุของความบาดหมางกันของ 2 ทีม ยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษ อย่าง  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล ว่าทำไมพวกเขาถึงได้เกลียดอะไรกันนักกันหนา มันมีที่มาอย่างไรถึงเป็นเช่นนี้ แม้แต่นักฟุตบอลที่ย้ายทีมข้ามฟากกันก็ยังโดนประนามกันชั่วลูกชั่วหลาน ทำไมมันช่างรุนแรงกันขนดานี้ ทั้งๆที่ 2 ทีมนี้ ก็ไม่ได้มีสโมสรอยู่ในเมืองเดียวกันแท้ๆ วันนี้เราจะมาร่วมหาคำตอบไปด้วยกันครับ 

สาเหตุที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล ถึงไม่ถูกกัน

สำหรับจุดแตกหักเริ่มต้นมาก็มาจากช่วงปี 1894 นู่นเลย ซึ่งเริ่มต้นมาจากการที่ 2 เมืองนี้ในตอนนั้นล้วนเป็นเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นเมืองท่าที่เรียกได้ว่ามีความร่ำรวยกว่าเมืองแมนเชสเตอร์ที่เป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรมมากมาย แต่ด้วยการที่วันหนึ่ง เมื่อ แมนเชสเตอร์ ทนไม่ไหว กับการต้องเป็นเมืองรองจากลิเวอร์พูล พวกเขาจึงทำการขุดท่าเรือเองเลย ด้วยระยะทางกว่า 36 ไมล์ และนั่นทำให้จากเดิมที่พวกเขาจะต้องเพิ่งพาอาศัย ลิเวอร์พูลในการขนถ่ายสินค้าไปขาย ก็ใช้ท่าเรือของตัวเองซะเลย ความเกลียดกันทางการค้า มันก็ยิ่งมาปะทุหนักอีกเมื่อ ลิเวอร์พูล สร้างผลงานจนเป็นแชมป์ดิวิชั่น 2 จะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นดิวิชั่น 1 ด้วยการเตะเพลออฟกับ นิวตัน ฮีธ นั่นก็คือทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดิมนั่นเอง และ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายชนะไป 2-0 และก็ทำให้ทั้ง 2 ทีม ต่างจงเกลียดจงชังกันมายาวนานจะกี่ปีกี่ชาติก็คงไม่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งด้วยศักดิ์ศรีความเป็นเมืองใหญ่ของทั้งคู่ที่ค้ำคออีกด้วย เรียกว่าฆ่าได้แต่หยามไม่ได้เลยทีเดียว

ความยิ่งใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ก่อนจะถึงวันของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บ้าง 

ในช่วงที่ฟุตบอลอังกฤษยังเรียกว่า ดิวิชั่น 1 ลิเวอร์พูล คือทีมที่ครองความยิ่งใหญ่มาโดยตลอด โดยมันเกิดขึ้นในช่วง ยุค 70-80 โดยลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ดิวิชั่น 1 มากถึง 18 สมัย และนั่นก็ยิ่งทำให้ชาวแมนคูเนียน รู้สึกเกลียด พวก สเกาเซอร์ หรือ ชื่อที่เรียกชาวเมือง ลิเวอร์พูล เข้าไปใหญ่ จนเมื่อการก้าวเข้ามาของท่าเซอร์อเล็ก เฟอร์กูสัน ทุกอย่างก็เปลี่ยนฝั่ง จนในวันที่ แมนยูฯ คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 ได้ ก็เป็นการชดเชยสิ่งที่ชาวแมนคูเนียนอดทนมากว่า 20 ปี กับการอยู่ภายใต้ร่มเงาของ ลิเวอร์พูล ซึ่งปีนี้ 2021 ก็คงเป็นอีกปีที่ชาวแมนคูเนียน จะยิ้มหน้าบานเริงร่าไปทั้งปีแน่นอน

ขอบคุณรูปภาพจาก smmsport.com

#แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด #ลิเวอร์พูล #ฟุตบอลต่างประเทศ