สำหรับคดีความการล้มบอลล่าสุดของไทยลีกที่เพิ่งตัดสินคดีกันไปเมื่อ เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็ได้ข้อสรุปแล้วว่า โดนกันไปเหนาะๆ จำคุกคนละ 1-5 ปี จากทั้งหมด 15 คน ที่ร่วมขบวนการ ซึ่งเหตุการณ์มันเกิดเมื่อปี 2017 แต่เพิ่งตัดสินกันปีนี้ ก็ต้องยอมรับกันว่าสมเหตุสมที่สุดแล้ว กับการสร้างความเสื่อเสียให้กับวงการฟุตบอลไทย ซึ่งเหตุผลก็มาจากการพนันล้วนๆ แต่สำหรับเหตุการณ์การล้มบอลของโลกฟุตบอลนั้น็มีมาอย่างยาวนานและมักจะเกี่ยวข้องกับการพนันทั้งนั้น เรียกได้ว่ามันทำกันเป็นขบวนการเลยกับคนกลุ่มที่ต้องการผลประโยชน์เข้าตัวเองโดยใช้กีฬาฟุตบอลเป็นตัวเชื่อมโยง และปัจจุบันก็ยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งมันก็มาพร้อมๆกับเทคโนโลยีการสื่อสารของโลกใบนี้ จากเมื่อก่อนเราจะแทงบอลก็ต้องไปยังโต๊ะบอลใช้การเขียนโพย ไปแทงตามโต๊ะต่างๆ แต่ยุคที่ระบบออนไลน์เชื่อมโยงเข้าหากันทุกอย่างง่ายขึ้น วงการพนันฟุตบอลก็เข้ามาแทรกแทรงวงการฟุตบอลทำการล้มบอลกันได้ง่ายมากขึ้นด้วยการทำการ ล็อคผลบอล เพื่อที่จะหาผลประโยชน์เข้าตัว
ตัวการใหญ่ของการล้มบอล
ตัวการในการล้มบอลอันที่จริงแล้วก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลยมันคือ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่านั่นเอง ทำมันถึงเชื่อแบบนั้น นั่นก็เพราะ ท่านทั้งหลายสังเกตุเห็นกันไหมว่าผู้ที่เข้ามาสนับสนุนวงการกีฬาฟุตบอลนั้นคือเว็บพนันรายใหญ่ของโลกเลย สังเหตุได้จากป้ายแบรนด์เนอร์ข้างสนามที่มีชื่อของเว็บพนันปรากฏอยู่และการที่จะเกิดการล็อคผลบอลก็สังเกตุได้จากการที่บางครั้ง แต่ละทีมเล่นบอลแบบไม่อยากชนะ จ่ายบอลกันไปมา ปล่อยให้อีกทีมเสียยิงขึ้นนำก่อน และค่อยตามตีเสมอ และแม้กระทั่งการที่กรรมการเมินเฉยการเป่าฟาวล์ หรือการให้ลูกจุดโทษแบบง่ายๆ ซึ่ง สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ก็รู้อยู่แก่ใจแต่ไม่ยอมที่จะทำอะไรก็เพราะมีผลประโยชน์ ซึ่งก็เป็นเหล่าสปอนเซอร์เว็บพนันนั่งเอง
สปอนเซอร์ของสโมสรก็มีส่วนในการล้มบอล
หากเราสังเกตุก็จะได้เห็นว่าปัจจุบันมีเว็บพนันระดับโลกเข้ามาให้การสนับสนุนทีมฟุตบอลเป็นจำนวนมากและแน่นอนว่าเหล่าสปอนเซอร์พวกนี้ก็มีอิทธิพลมากกับการจะล้มบอล ด้วยเงินตราที่มีอยู่เต็มมือ และก็สามารถใช้ยังมีอำนาจมืดเหล่านี้ทำการต่อรองได้ทั้งประธานสโมสร ลงมายัง ผู้จัดการทีม และสุดท้ายเหล่านักเตะทั้งทีม และก็ไร่เรียงไปยังตำแหน่งอื่นๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งผู้ตัดสินในสนาม ,ผู้ตัดสิน VAR , ผู้ช่วยผู้ตัดสิน และแม้แต่ผู้ควบคุมการจัดการแข่งขัน
